เปิดขั้นตอน การคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ไม่ยากอย่างที่คิด
1868 views | 29/03/2022
Copy link to clipboard
Content Creator

การคำนวณภาษีถือเป็นเรื่องพื้นฐานที่คนทำงานมีเงินได้ควรเรียนรู้ไว้ แต่หลายคนพอเห็นว่าเกี่ยวกับตัวเลขการคำนวณก็จะมองว่าเป็นเรื่องน่าปวดหัว ซึ่งความจริงแล้วไม่ได้ยากอย่างที่คิด บทความนี้จึงจะมาแนะนำว่าการคำนวณภาษีนั้นทำอย่างไร 



ก่อนที่เราจะทำการยื่นภาษีออนไลน์ เราก็ต้องมาคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดากันก่อน เพื่อให้รู้ว่าสุดท้ายแล้วภาษีที่ต้องจ่ายคือเท่าไหร่ โดยวิธีคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดามีวิธีการคำนวณ 2 วิธีที่ต้องใช้ควบคู่กัน ได้แก่

  1. คำนวณภาษีจากเงินได้สุทธิ (แบบขั้นบันได)
  2. คำนวณภาษีจากเงินได้พึงประเมิน


วิธีที่ 1 คำนวณภาษีจากเงินได้สุทธิ (แบบขั้นบันได)

สิ่งที่เราต้องรู้ก็คือ เงินได้ ค่าใช้จ่าย ค่าลดหย่อน และอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา


เงินได้ คือ รายได้ต่อปีทั้งหมดจากงานประจำและงานเสริม โดยแบ่งออกเป็น 8 ประเภท สรุปคร่าว ๆ ดังนี้ 


ค่าใช้จ่าย คือ สิทธิประโยชน์ทางภาษีอย่างหนึ่งที่กฎหมายกำหนดไว้ สำหรับหักเป็นต้นทุนในการทำงาน เพื่อให้ได้เงินได้หรือรายได้สุทธินั้นมาคิดภาษีตามบัญชีอัตราภาษี โดยมีอัตราการหักค่าใช้จ่ายมากหรือน้อยตามแต่ละประเภทของเงินได้



ค่าลดหย่อน คือ รายการลดหย่อนภาษีต่าง ๆ ประจำปีนั้น ๆ


อัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา คือ ภาษีแบบขั้นบันไดในอัตราสูงสุด 35% โดยจะเพิ่มขึ้นตาม เงินได้สุทธิ ของผู้เสียภาษี ซึ่งอัตราภาษีปัจจุบันดูได้จากตารางต่อไปนี้



เมื่อเราเตรียมข้อมูลไว้ครบแล้ว ก็มาถึงวิธีการคำนวณกัน โดยวิธีคำนวณภาษีจากเงินได้สุทธิ ทำได้ดังนี้


เงินได้ - ค่าใช้จ่าย - ค่าลดหย่อน = เงินได้สุทธิ 


จากนั้น


เงินได้สุทธิ x อัตราภาษี = เงินภาษีที่ต้องจ่าย


ตัวอย่าง 


เงินได้ : รายได้จากเงินเดือนทั้งปีรวมกัน 300,000 บาท


เนื่องจากเป็นเงินได้ประเภทที่ 1 จึงหักค่าใช้จ่ายได้ 50% ไม่เกิน 100,000 บาท 


ค่าใช้จ่าย : 100,000 บาท


ค่าลดหย่อน สมมติว่ามีค่าลดหย่อนส่วนตัว 60,000 บาท ประกันสังคม 9,000 บาท (750x12)

ดังนั้น เงินได้สุทธิ = 300,000 - 100,000 - 60,000 - 9,000

             = 131,000 


เมื่อเทียบตามตารางอัตราภาษีแล้วจะเห็นว่า เงินได้สุทธิ 131,000 จะได้รับการยกเว้นภาษี จึงไม่ต้องเสียภาษีนั่นเอง 



วิธีที่ 2 คำนวณภาษีจากเงินได้พึงประเมิน

วิธีที่ 2 นี้จะถูกนำมาใช้ก็ต่อเมื่อมีเงินได้อื่น ๆ ที่ไม่ใช่เงินเดือนรวมกันตั้งแต่ 120,000 บาทขึ้นไป โดยมีวิิธีคิดดังนี้


เงินได้ที่ไม่ใช่เงินเดือน x 0.5% = ค่าภาษี


หากคำนวณด้วยวิธีคิดแบบเหมาแล้ว มีค่าภาษีไม่เกิน 5,000 บาท จะได้รับการยกเว้นภาษีในวิธีนี้ 


เมื่อคำนวณ 2 วิธีแล้ว วิธีไหนคำนวณได้ภาษีมากกว่าให้นำมาเสียภาษีตามวิธีนั้น ซึ่งโดยปกติแล้ว วิธีที่ 1 จะคำนวณออกมาได้มากกว่าเสมอ


จะได้เห็นว่าการคำนวณภาษีนั้นไม่ได้มีขั้นตอนยุ่งยากซับซ้อนเท่าไหร่ เพียงแค่ศึกษารายละเอียดเงื่อนไขและเตรียมเอกสารให้พร้อม ก็สามารถคำนวณภาษีกันได้เลย หากคำนวณและยื่นภาษีออนไลน์แล้วพบว่ามีภาษีที่ต้องจ่ายเพิ่ม สามารถเลือกชำระภาษีผ่าน 4 ช่องทางตามบทความต่อไปนี้ได้เลย >> 4 รูปแบบการชำระภาษี ที่ผู้เสียภาษีควรรู้